ปมร้าย...คลายรัก
ลองมาอ่านกันเยอะๆนะคะ เรื่องนี้ออกแนวรักเศร้า ตบจูบเล็กน้อย-ปานกลาง
ผู้เข้าชมรวม
50
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทที่ 1 หากันจนเจอ
หลายปีที่ผ่านมาหญิงสาววัย 26 ปี เธอคือสุรีกาญจน์ หรือ เจนนี่ เฝ้ารอคอยให้ความฝันร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอได้หายไปสักที สิ่งที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตที่แสนจะสวยงามของเธอมันโหดร้ายนัก โหดร้ายเกินไปกับผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจ เพียงแค่ขาดสติวูบเดียวเท่านั้น เท่านั้นเองที่ทำให้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป 5ปีที่ผ่านมาเธอพยายามจะลืมมันมาโดยตลอด แต่ก็ไม่สำเร็จ ทุกวันนี้ฝันร้ายพวกนั้นก็ยังตามมาหลอกหลอนเธอได้อยู่ทุกค่ำคืน
“เจนนี่”
เสียงของ วิลัย เพื่อนรักผู้แสนห้าวหาญของเจนนี่ร้องเรียกชื่อเธอข้ามโต๊ะทำงานของใครหลายต่อหลายคนส่งมายังเจนนี่ ส่งผลให้ทุกสายตาในบริษัทหันไปมองวิลัยเป็นตาเดียว หล่อนได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไป ก่อนจะรีบเดินฉับๆตรงดิ่งมาหาเพื่อนเลิฟ
“ว่าไงวิลัย”
“ท่านประธานคนใหม่เรียกแกเข้าไปพบ” วิลัยกระซิบกระซาบข้างหูเพื่อนรัก หลังจากที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องท่านประธานเมื่อครู่
“ท่านประธานคนใหม่?”
เจนนี่สะดุดหูกับคำว่าคนใหม่ หรือว่าที่เธอลางานเมื่อวานนี้ส่งผลให้เธอตกข่าวอย่างไม่น่าให้อภัย
“ก็ใช่น่ะสิ ท่านประธานคนใหม่ ลูกชายท่านประธานคนก่อนเชียวนะยะ เห็นว่าพ่อท่านไม่สบายหนักสงสัยโรคเดิมกำเริบก็เลยให้ลูกชายเข้ามาบริหารงานแทนน่ะ ทั้งหนุ่มแน่น ทั้งหล่อ ทั้งรวยแบบนี้ อายุเท่ากันอีก สเปคฉันสุดๆไปเลยล่ะแก”
นี่ลางานแค่วันเดียวมีเรื่องใหญ่โตแบบนี้เกิดขึ้นได้เลยหรือนี่
“แล้วท่านเรียกฉันไปทำไม...มีอะไรรึเปล่า”
เป็นไปตามสัญชาติญาณของพนักงานออฟฟิสที่พอเวลาหัวหน้าเรียกพบตัวแบบไม่มีสาเหตุแบบนี้มันอาจจะต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ไม่แน่เธออาจจะโดนด่าเรื่องที่บังอาจลาในวันที่ท่านเข้ามาทำงานก็ได้ เธอจะถูกตัดเงินเดือนหรือเปล่านะ เกิดขั้นร้ายแรงก็คงโดนไล่ออก ไม่นะ! เธอพยายามนึกหาสาเหตุที่เธออาจจะทำผิดไปในบางประการ แต่มันอะไรหรือ มีไหมนะ
“ไม่รู้สิ ฉันคิดว่าท่านคงอยากจะรู้จักพนักงานให้ครบทุกคนล่ะ เมื่อวานนี้มีประชุมใหญ่แกไม่มาท่านคงอยากจะรู้จักแกมั้ง ไม่มีอะไรหรอก”
เจนนี่ไม่มีทางเลือกอื่นเลยที่จะบ่ายเบี่ยงไม่ไปพบท่านประธาน เธอได้แต่รอลุ้นชะตากรรมของตัวเองว่าวันนี้พนักงานดีเด่นอย่างเธอจะโดนด่าว่าอย่างไรบ้าง แต่พอฟังเหตุผลของยายเพื่อนรักว่ามาเมื่อกี้นี้ก็พอทำใจได้อยู่นิดหนึ่ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงตอบรับจากท่านประธานว่า เข้ามา หรือใครอ่ะ, หรือมาทำไม, มาหาใคร, ไปให้พ้น, เยอะไปปล้าวว! ในใจตอนนี้กำลังเตรียมตัวยอมรับความเป็นไปของชีวิตอยู่อย่างทรมานเหลือเกิน ท่านประธานจะว่าอะไรเรานะ เธอได้แต่สรรหาคำที่ท่านจะเลือกมาด่าเธอ ว่าคำนั้นมันจะเป็นคำว่าอะไร
“เข้ามาได้”
สามคำเท่านั้นที่ออกมาจากปากของท่านประธานคนใหม่ หัวใจของเธอก็พลันเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไปไกลแล้ว แล้วเธอก็รีบเปิดประตูเข้าไป วันนี้โชคเข้าข้างเธอจริงๆที่ไม่ได้สบกับสายตาพิฆาตของท่านประธานตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในห้อง ไม่งั้นเธอคงแทบไม่มีกำลังขาเดินต่อแน่ แม้นเห็นเพียงแค่ศีรษะที่พ้นจากพนักพิงเก้าอี้มาไม่มาก เจนนี่ก็รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างมันช่างดูน่าเกรงขามอะไรอย่างนี้ ราศีเจ้านายใหญ่โตแผ่ซ่านไปคับห้องเลยทีเดียว
“ท่านประธานเรียกฉันมา มีอะไรหรือคะ”
เธอขอเป็นผู้เปิดประเด็นก่อนแล้วกัน ท่านประธานได้ยินเช่นนั้นจึงละสายตาจากวิวตึกระฟ้าข้างนอกมาสนใจคนภายในห้องแทน เขาหันเก้าอี้กลับมาหาคนอีกคนที่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้นรอฟังคำบางคำที่จะออกมาจากปากของเขาเอง
“ฮะ!”
ทันทีที่เธอเห็นหน้าเขาเธอก็ถึงกับผงะ หน้าตาของเขาชวนให้จิตใจของเธอย้อนเวลากลับไปนึกถึงอดีตที่แสนเลวร้ายครั้งนั้น นึกถึงคนๆหนึ่งที่เธอไม่อยากจะจดจำ ภายในใจของเธอได้แต่ร้องขอโชคชะตาว่าขออย่าให้เป็นเขาคนนั้นเลย เธอไม่อาจละสายตาจากเขาได้จริงๆ เธออยากรู้ว่าเขาใช่คนนั้นจริงหรือเปล่า ใจหนึ่งบอกว่าเป็นเขาแต่อีกใจก็รีบค้านขึ้นมาว่าไม่มีทาง ดวงตาของเธอที่ฉายแววออกมาส่งผลให้คนที่นั่งอยู่ได้พอสังเกตเห็นและรับรู้ถึงความรู้สึกข้างในจิตใจของหญิงสาวได้อย่างชัดเจน
“เคอะ..คุณ..” เจนนี่ตะกุกตะกัก ทำอะไรไม่ถูกแล้ว ไม่จริงใช่มั้ย...เขาก็แค่คนหน้าคล้ายเท่านั้นเอง จะเป็นเขาไม่ได้เด็ดขาด เขาไม่มีทางจะมาอยู่ที่นี่ได้ ไม่ใช่เขาแน่นอน เธอพยายามเฝ้าปลอบใจตัวเองไปแบบนั้น และเธอคงไม่สามารถที่จะมองหน้าเขาได้อีกต่อไปแล้วในเวลานี้ เธอรีบกลับหลังหันไปในทันทีบางทีเขาอาจจะไม่ทันได้มองเห็นหน้าเธอก็ได้
“ไม่เจอกันนาน ไม่รู้ว่าคุณจำผมได้หรือเปล่า?”
เสียงทุ้มๆนุ่มหูดังขึ้นอยู่ด้านหลังของเจนนี่ ใจของเธอเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ มันวูบวาบไปทั้งตัว ยังไงบอกไม่ถูก สิ่งที่เขาพูดมายิ่งเป็นเครื่องยืนยันได้เลยว่าเธอไม่ได้พบกับคนหน้าคล้าย แต่ตอนนี้เธอพบกับเจ้าตัวของเขาจริงๆ ภายในใจของเธอเต้นรัวไม่เป็นจังหวะมันคงกำลังกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่
“ท่านประธานพูดเรื่องอะไรคะ เราไม่เคยเจอกันมาก่อนฉันจะจำคุณได้ยังไง”
อีกฝ่ายได้ยินเช่นนั้นก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆเกิดขึ้น เขาคงจำคนผิดเขาต้องคิดอย่างนั้นแน่ เธอคิดในใจ
“ผมว่าคุณน่ะ...ไม่เคยลืมผมด้วยซ้ำไปนะ”
“เอ่อ..ไม่ใช่หรอกค่ะ สงสัยท่านประธานจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ”
เขาไม่ได้จำคนผิดแน่นอนเขายืนยันกับตัวเองได้ เธอคือคนที่เขาตามหามาโดยตลอด ส่วนเจนนี่ก็พยายามจะวิ่งหนีปมร้ายๆภายในใจของเธอปมนี้ไปให้พ้นๆเหมือนกัน แต่ทำไมนะเธอถึงลืมมันไม่ลงซักที
“5ปีที่ผ่านมา ผมตามหาคุณมาโดยตลอดแล้ววันนี้ผมก็เจอคุณจนได้” น้ำเสียงของเขาดูหม่นๆ เหมือนคนอมทุกข์มานานแสนนาน
“ขอโทษจริงๆค่ะ ฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนจริงๆ”
ถึงเขาจะเป็นคนนั้นจริงๆแต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอกับเขาจะต้องมารื้อฟื้นปมนั้นขึ้นมาอีก เพื่อให้ทุกอย่างมันจบได้อย่างราบรื่นเราไม่ควรจะต้องมาข้องเกี่ยวอะไรกันอีกต่อไปแล้ว
“ผมไม่ได้จะตามมารั้งตัวคุณไว้หรอกนะ...ผมแค่อยากจะขอโทษคุณและรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น...คือผม..ผม..ผมไม่ได้ตั้งใจ”
ไม่ได้ตั้งใจงั้นหรอ! มันน่าจะดีกว่านี้นะถ้าเขาไม่ได้พูดสิ่งนั้นออกมา เขาไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นแล้วทำไมตอนนั้นเขาไม่ห้ามใจตัวเองล่ะ แม้นเธอจะพยายามหักห้ามใจไม่ให้โกรธเขา แต่เรื่องความรู้สึกมันห้ามกันได้ลำบากนัก อารมณ์ร้ายๆที่สั่งสมมาตลอดเวลา 5 ปี สิ่งที่เธอพยายามสะกดมันไว้ไม่ให้เล็ดลอดออกมาให้ใครได้เห็นมัน ก็ถูกปล่อยออกมาอย่างหยุดไว้ไม่ทันจริงๆ เธอเผลอตัวหันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับเขาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว และเมื่อตาสบกันสติของเธอก็วิ่งถลากลับเข้าสมองทันที และเธอก็ต้องหันหน้ากลับไปโดยอัตโนมัติอีกครั้ง
“คุณจะโกรธ จะเกลียดผมยังไงก็ตามใจเถอะ มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่คุณรู้มั้ยตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีวันไหนเลยที่ผมจะนอนหลับแล้วไม่ฝันเห็นเรื่องวันนั้น ผมเสียใจกับมันมากและผมก็รู้ว่าคุณก็ไม่ได้เสียใจน้อยไปกว่าผม ผมขอโท่..”
“พอเถอะค่ะ...คุณไม่ได้ทำอะไรผิดทั้งนั้นล่ะค่ะ และฉันก็ไม่ได้เสียใจอะไรด้วย ดิฉันกับคุณเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เราไม่เคยมีเรื่องอะไรทำให้ต้องรู้สึกผิดทั้งนั้นล่ะค่ะ ถ้าคุณจะเรียกดิฉันเข้ามาคุยแค่นี้ล่ะก็..ดิฉันขอตัวค่ะ”
“แต่ผมจำคุณได้...คุณสุรีกาญณ์!”
เจนนี่หยุดกึก นี่สรุปเขาจำเธอได้จริงๆงั้นหรือ?
“ผมไม่มีทางลืมคนที่ผมตามหามาโดยตลอดได้แน่” ถึงกระนั้นก็เถอะเจนนี่ขอไม่รับรู้อะไรไว้ก่อนแล้วกัน เธอตัดสินใจปฏิเสธเขาไปอีกครั้งว่า..
“ดิฉันต้องขอโทษจริงๆค่ะ ดิฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนจริงๆ”
ผลงานอื่นๆ ของ สุกี้คนดีของสังคม ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สุกี้คนดีของสังคม
ความคิดเห็น